ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสีพ่นรถยนต์ 

Maferma  > Lifestyle >  ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสีพ่นรถยนต์ 
0 Comments
สีพ่นรถยนต์

หากว่าเอ่ยถึงสีพ่นรถยนต์ เชื่อได้เลยว่าทุกคนคงมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าสีพ่นรถยนต์เหมาะสมกับคนที่เป็นช่างอย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากรู้ว่าการพ่นสีรถยนต์นั้นคือสิ่งใดกันแน่ และมีสิ่งใดที่คุณกำลังเข้าใจผิดอยู่หรือไม่ มาดูพร้อมๆ กันเลย 

1.สีพ่นรถยนต์มีแค่ชนิดเดียว 

หลายๆ คนมักเข้าใจว่าสีพ่นมีแค่ชนิดเดียวคือชนิด 2k ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วสีพ่นรถยนต์มีถึงสามชนิดด้วยกัน ชนิดแรกได้แก่ สี 1 องค์ประกอบ เหมาะกับการใช้งานกรณีผู้ที่ต้องการความรีบเร่งในการทำสีรถ และสี OEM ที่เป็นสีองค์ประกอบเดียวอีกชนิดหนึ่ง และจะแห้งเร็วกว่าในการอบที่อุณหภูมิไม่เกิน 160 องศาเซลเซียส โดยเรียกอีกชื่อว่าสีอบ และสีแห้งช้าหรือสี 2k ที่จะมีสององค์ประกอบได้แก่ตัวสีและตัวเร่งปฏิกิริยา โดยก่อนใช้งานจะต้องนำส่วนผสมทั้งสองส่วนมาผสมกันเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาสีแห้งตัว 

2.สีพ่น 1k ดีกว่าแบบ 2k 

เนื่องจากว่าการแห้งตัวของสีเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของการทำสี และการแห้งตัวจะเกิดในองค์ประกอบสองส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งอยู่ในเรซิ่นของสี อีกส่วนอยู่ในฮาร์ดเดนเนอ์ การแห้งตัวที่ดีจะทำให้ได้ฟิล์มสีที่แห้งและสมบูรณ์ ฟิล์มสีจึงแข็งแกร่งและเป็นคุณสมบัติที่ใกล้เคียงสีรถที่มาจากโรงงานนั่นเอง 

3.สีอบไม่ดีอย่างที่คิด 

สำหรับความเข้าใจนี้ถือว่าผิดมหันต์ เพราะสีอบเป็นสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์เป็นหลักและจะแห้งตัวโดยการอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส โดยสีอบหรือสี OEM เป็นสีที่คุณภาพดีมาก และมีคุณสมบัติคือแข็งแรง ชั้นฟิล์มสีสูง มีความทนทานต่อตัวทำละลาย ไม่ว่าจะเป็นทินเนอร์หรือน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ยังทนทานต่อสารเคมีต่างๆ และทนทานต่อแสงแดดได้ดี ไม่ซีดจางได้ง่าย คงทนและคงสภาพเดิมได้อย่างยาวนาน มีความเงาในเนื้อสีที่ดีมาก  

4.เลือกสี OEM ที่อู่สีได้ 

หลายคนอาจจะคิดว่าสี OEM เป็นสีที่มีคุณภาพดี ดังนั้นจึงอยากจะทำที่อู่สี แต่จริงๆ แล้วหากว่าทำที่อู่สีจะต้องทำแบบ 1K หรือ 2K เท่านั้น เพราะขั้นตอนของการอบสีไม่ว่าที่อู่หรือศูนย์บริการมาตรฐานก็ไม่สามารถอบสีที่อุณหภูมิสูงเท่าโรงงานการผลิตรถยนต์ได้ในอุณหภูมิสูงระดับร้อยกว่าองศา 

จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ายังมีสีอีกหลายต่อหลายสีที่หลายๆ คนนั้นต้องทำการศึกษาไม่มากก็น้อย จะดีกว่าหรือไม่หากว่าคุณจะเลือกศึกษาเรื่องของสีให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้